เจลกับโฟมแตกต่างกันยังไง??

การล้างหน้าเป็นขั้นตอนพื้นฐานในการดูแลผิวประจำวัน ถึงแม้การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (cleanser) จะเป็นตัวช่วยชั้นเลิศในการขจัดสิ่งสกปรก, ความมันส่วนเกิน, เหงื่อไคล, เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ, รวมทั้งเมคอัพและสารเคมีต่าง ๆ ที่ตกค้างบนผิวหน้า แต่ก็อาจกลายเป็นศัตรูที่ทำร้ายผิวของคุณได้หากผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม่เหมาะสม

ความแตกต่างของโฟมล้างหน้าและเจลล้างหน้า

1. มีลักษณะเด่นของโฟมล้างหน้า คือ เนื้อผลิตภัณฑ์จะกลายเป็นฟองจำนวนมากเมื่อถูกผสมกับน้ำตามด้วยการนวดหรือขยี้ด้วยมือ ส่วนประกอบสำคัญในโฟมล้างหน้าคือ สารลดแรงตึงผิว ที่จะทำหน้าที่ขจัดสิ่งสกปรกบนผิวหน้า โดยสารโซเดียมลอริลซัลเฟต (sodium lauryl sulfate)  หรือ  SLS เป็นสารที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เนื่องจากสามารถขจัดสิ่งสกปรกได้ดีและทำให้เกิดฟองมาก อย่างไรก็ตามเนื่องจาก SLS อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในบางคนผลิตภัณฑ์ที่วางขายในท้องตลาดในปัจจุบันจึงพยายามหลีกเลี่ยงการใช้สาร SLS และเปลี่ยนมาใช้สารลดแรงตึงผิวชนิดอื่นเช่นโซเดียมลอเรทซัลเฟต (sodium laureth sulfate; SLES) และโคโคมิโดโพรพิลบีเทน (Cocamidopropyl betaine)ที่มีความอ่อนโยนมากกว่าแทน

2. ลักษณะเด่นของเจลล้างหน้า คือ เนื้อผลิตภัณฑ์มีลักษณะเป็นเจลใส มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก และไม่มีฟองหรือมีฟองน้อย โดยเจลล้างหน้าที่มีฟองมักใช้สารลดแรงตึงผิวกลุ่มที่ไม่มีประจุ เช่น decyl glucoside จึงให้ฟองน้อย แต่มีความสามารถชำระล้างสูง และอ่อนโยนต่อผิวหนัง

เลือกอะไรใช้อะไรดีระหว่างเจลล้างหน้ากับโฟมล้างหน้า?

เนื่องจากผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าจึงควรคำนึงถึงสภาพผิวของแต่ละคนเป็นหลัก โดย

1. โฟมล้างหน้ามีความสามารถในการขจัดสิ่งสกปรกรวมทั้งความมันบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากมีการใช้สารลดแรงตึงผิวที่รุนแรงเกินไปเป็นส่วนประกอบอาจทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำมันและความชุ่มชื้นจำนวนมาก จนทำให้ผิวแห้งตึง และเกิดอาการคันหรือระคายเคืองได้ นอกจากนั้นบางผลิตภัณฑ์ที่เป็นด่างมากเกินไปเนื่องจากการเติมด่างเพื่อไปทำปฏิกิริยากับไขมันให้เป็นสบู่ อาจไปรบกวนสมดุลค่าความเป็นกรด-ด่างของผิวหนัง ทำให้ผิวบวมและมีความยืดหยุ่นลดลงได้ ดังนั้น โฟมล้างหน้าจึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวผสมถึงผิวมัน แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งและผิวบอบบางแพ้ง่าย เนื่องจากจะยิ่งทำให้ผิวมีความแห้งกร้านและอาจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย

2.เจลล้างหน้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกเช่นเดียวกับโฟมล้างหน้า แต่ความอ่อนโยนและถนอมผิวมากกว่า เจลล้างหน้าเหมาะกับผู้ที่มีผิวผสม, ผิวมัน และผิวบอบบางแพ้ง่าย เนื่องจากช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินออกจากผิว ในขณะที่ยังสามารถรักษาสมดุลของน้ำและน้ำมันบนใบหน้าไว้ จึงไม่ทำให้รู้สึกแห้งตึงภายหลังการล้าง ส่วนผู้ที่มีสภาพผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย ควรเลือกใช้เจลล้างหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันทีทรี (tea tree oil) หรือกรดซาลิไซลิก (salicylic acid) เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดสิว, ช่วยละลายซีบัม, และลดการอักเสบของผิว