สครับตัวเอามาขัดหน้าได้ไหม !!!!!!!!
สครับตัวเอามาขัดหน้าได้ไหม !!!!!
ถึงแม้ว่าผิวหนังที่ห่อหุ้มร่างกายจะต่อเนื่องเป็นผืนเดียวกัน แต่ผิวหนังในแต่ละส่วนของร่างกายมีส่วนประกอบและลักษณะทางกายวิภาคที่แตกต่างกันออกไป โดยผิวหน้าจะต้องการการดูแลและการบำรุงมากกว่าผิวกายทั้งนี้เนื่องจาก
1.ผิวหน้ามีชั้นหนังกำพร้าบางกว่าที่ผิวกาย โดยเฉพาะชั้นของเซลล์คอร์นิโอไซต์ (corneocyte) ซึ่งเป็นเซลล์ชั้นนอกสุดที่มีการสะสมของโปรตีนเคราตินที่บางกว่าผิวกายมากผิวหน้าจึงถูกทำลาย, เกิดการเสื่อมสภาพ, ไวต่อสารก่อระคายเคือง, และสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายกว่าผิวกาย
2.ที่บริเวณผิวหน้ามีความหนาแน่นของเซลล์เมลาโนไซต์(melanocyte) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่ผลิตเม็ดสีเมลานินสูงกว่าผิวกาย (โดยเฉพาะบริเวณผิวกายที่ไม่ค่อยสัมผัสกับแสงอาทิตย์) จึงมักพบรอยแดงและจุดด่างดำที่ผิวหน้าได้ง่ายกว่า
3.ชั้นหนังแท้ของผิวหน้ามีปริมาณหลอดเลือดและต่อมไขมันมากกว่าที่ผิวกาย แต่มีจำนวนต่อมเหงื่อน้อยกว่า
4.ผิวหน้ามีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนมากกว่าผิวกาย อาทิ ฮอร์โมนเพศซึ่งกระตุ้นให้ต่อมไขมันบริเวณผิวหน้าขยายตัวและผลิตน้ำมัน (sebum) มากขึ้น
การขัดหรือสครับผิวเป็นกระบวนการทางกายภาพที่มีจุดประสงค์เพื่อผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกสุดและเผยเซลล์ผิวใหม่ด้านล่าง เม็ดสครับได้ถูกแบ่งแยกให้มีความเหมาะสมกับบริเวณผิวที่ใช้ โดยเม็ดสครับสำหรับผิวกายจะมีขนาดใหญ่ และมีความหยาบมากกว่าเม็ดสครับสำหรับผิวหน้า จึงไม่ควรนำครีมสครับสำหรับผิวกายมาใช้บริเวณใบหน้าเป็นโดยเด็ดขาด!เนื่องจากอาจทำให้ผิวหน้าเกิดรอยขีดข่วน หรือเกิดการฉีกขาดของหลอดเลือดฝอยใต้ชั้นผิว ซึ่งจะนำมาซึ่งการอักเสบและการติดเชื้อจุลินทรีย์ที่ใบหน้าได้นอกจากนั้นอาจทำให้ผิวบางเกินไปจนง่ายต่อการถูกทำงายโดยความร้อน, แสงแดด, และสารเคมีต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลให้ผิวหน้ายิ่งดูหยาบกร้าน และแก่กว่าวัย
สครับตัวเอามาขัดหน้าได้ไหม !!!!!!!!
ไม่ควรเอาสครับผิวกายมาใช้กับผิวหน้า เพราะความละเอียดของเม็ดสครับผิวนั้นจะแตกต่างกัน อาจทำให้ใบหน้าเกิดรอยขีดข่วน และทำให้เกิดการฉีกขาดของเส้นเลือดใต้ชั้นผิวหรือเกิดเส้นเลือดฝอยแตกได้จากการขัด บดขยี้ที่รุนแรง
